วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

บันทึกอนุทินครั้งที่ 5 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน

Learning(เนื้อหาที่เรียน) :
  • ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
Knowledge (ความรู้ที่ได้รับ):

6. เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Children with Learning Disabilities) 
      เรียกย่อ ๆ ว่า L.D. (Learning Disability) เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการ หรือความบกพร่องทางร่างกาย
  • สาเหตุของ LD
ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้ (เชื่อมโยงภาพตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
  1. กรรมพันธุ์
 - ด้านการอ่าน (Reading Disorder)
    อ่านหนังสือช้า ต้องสะกดทีละคำอ่านออกเสียงไม่ชัด ออกเสียงผิด หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลยไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน หรือจับใจความสำคัญไม่ได้
*ลักษณะของเด็ก LD ด้านการอ่าน
  1. อ่านช้า อ่านคำต่อคำ ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้
  2. อ่านออกเสียงไม่ชัดเจน
  3. เดาคำเวลาอ่าน
  4. อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ อ่านผิดประโยคหรือผิดตำแหน่ง
  5. อ่านโดยไม่เน้นคำ หรือเน้นข้อความบางตอน
  6. ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้
  7. ไม่รู้ความหมายของเรื่องที่อ่าน
  8. เล่าเรื่องที่อ่านไม่ได้ จับใจความสำคัญไม่ได้
 - ด้านการเขียน (Writing Disorder)
  1. เขียนตัวหนังสือผิด สับสนเรื่องการม้วนหัวอักษร เช่น จาก ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
  2. เขียนตามการออกเสียง เช่น ประเภท เขียนเป็น ประเพด
  3. เขียนสลับ เช่น สถิติ เขียนเป็น สติถิ
*ลักษณะของเด็ก LD ด้านการเขียน
  1. ลากเส้นวนๆ ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ ซ้ำๆ
  2. เรียงลำดับอักษรผิด เช่น สถิติ เป็น สติถิ
  3. เขียนพยัญชนะหรือตัวเลขสลับกัน เช่น ม-น, ภ-ถ, ด-ค, พ-ผ, b-d, p-q, 6-9
  4. เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้ แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆได้
  5. เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
  6. เขียนคำตามตัวสะกด เช่น เกษตร เป็น กะเสด
  - ด้านการคิดคำนวณ (Mathematic Disorder)
  1. ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลขหรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
  2. ไม่เข้าหลักเลขหน่วย สิบ ร้อย
  3. แก้โจทย์ปัญหาเลขไม่ได้
*ลักษณะของเด็ก LD ด้านการคำนวณ
  1. ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขเช่นหลักหน่วยสิบร้อยพันหมื่นเป็นเท่าใด
  2. นับเลขไปข้างหน้าหรือถอยหลังไม่ได้
  3. คำนวณบวกลบคูณหารโดยการนับนิ้ว
  4. จำสูตรคูณไม่ได้
  5. เขียนเลขกลับกันเช่น13เป็น31
  6. ทดไม่เป็นหรือยืมไม่เป็น ตีโจทย์เลขไม่ออก
  7. คำนวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนที่จะทำจากขวาไปซ้าย ไม่เข้าใจเรื่องเวลา
 - หลายๆ ด้านร่วมกัน
  1. อาการที่มักเกิดร่วมกับ LD แยกแยะขนาดสีและรูปร่างไม่ออก มีปัญหาความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา
  2. เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้าย-ขวา
  3. งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
  4. สมาธิไม่ดี (เด็ก LD ร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
  5. เขียนตามแบบไม่ค่อยได้ ทำงานช้า

7. ออทิสติก (Autistic) หรือ ออทิซึ่ม (Autism) 

  • เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น 
  • ไม่สามารถเข้าใจคำพูด ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น 
  • ไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม 
  • เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
  • ติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต
ลักษณะของเด็กออทิสติก 
  1. อยู่ในโลกของตนเอง
  2. ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
  3. ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน 
  4. ไม่ยอมพูด
  5. เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ
เกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติก องค์การอนามัยโลกและสมาคมจิตแพทย์อเมริก
  1. ความผิดปกติของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างน้อย 2 ข้อ
  • ไม่สามารถใช้ภาษาท่าทางสื่อสารทางสังคมกับบุคคลอื่น
  • ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลให้เหมาะสมตามวัย
  • ขาดความสามารถในการแสวงหาการมีกิจกรรม ความสนใจ และความสนุก สนานร่วมกับผู้อื่น
  • ขาดทักษะการสื่อสารทางสังคมและทางอารมณ์กับบุคคลอื่น
      2.  ความผิดปกติด้านการสื่อสารอย่างน้อย 1 ข้อ
  • มีความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาในด้านภาษาพูด
  • ในรายที่สามารถพูดได้แล้วแต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นบทสนทนาหรือโต้ตอบบทสนทนากับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
  • พูดซ้ำๆ หรือมีรูปแบบจำกัดในการใช้ภาษา เพื่อสื่อสารหรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาอย่างไม่เหมาะสม
  • ไม่สามารถเล่นสมมุติหรือเล่นลอกตามจินตนาการได้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ
      3.   มีพฤติกรรม ความสนใจ และกิจกรรมที่ซ้ำๆ และจำกัด อย่างน้อย 1 ข้อ
  • มีความสนใจที่ซ้ำๆ อย่างผิดปกติ
  • มีกิจวัตรประจำวันหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องทำโดยไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ถึงแม้ว่ากิจวัตรหรือกฎเกณฑ์นั้นจะไม่มีประโยชน์
  • มีการเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ
  • สนใจเพียงบางส่วนของวัตถุ
      4.  พฤติกรมการทำซ้ำ
  • นั่งเคาะโต๊ะ หรือโบกมือนานเป็นชั่วโมง
  • นั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
  • วิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโน้น
  • ไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
      5.  พบความผิดปกติอย่างน้อย 1 ด้าน (ก่อนอายุ 3 ขวบ)
  • ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
  • การใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมาย
  • การเล่นสมมติหรือการเล่นตามจินตนาการ
Teaching Techniques(วิธีการสอน) :
  • Program Power Point
  • เทคนิคการถามตอบ
  • เทคนิคการยกตัวอย่าง
Skills(ทักษะที่ได้): 
  • ทักษะการคิดตอบคำถาม
  • ทักษะการฟัง
  • ทักษะการวิเคราะห์
Applications in Life(การประยุกต์ใช้) :
  • การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มัความต้องการพิเศษนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่เราจะต้องใส่เดกให้มากๆ เพื่อให้เด็กเกิดความไว้วางใจและคอยเฝ้าดูเขาอย่างใกล้ชิด
Evaluation(การประเมินผล):
Me : ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน
Friend : เพื่อนๆมาเรียนเร็วและห้ความร่วมมือในการเรียนการสอน
Teacher : อาจารย์เตรียมการสอนมาเป็นอย่างดีทั้งสื่อการสอนและการยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น